วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ปัญญาภิวัฒน์ ผลิตผล ตัวจริง ธุรกิจสะดวกซื้อ


วันที่ 17 มีนาคม 2552 11:30
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ แหล่งเพาะคนค้าปลีก... จากนักเรียนสู่เถ้าแก่น้อย

"เด็กในร้านเซเว่นฯ เล่าให้เราฟังว่า ก่อนมาเรียน เพื่อนๆ จะหัวเราะเยอะแล้วถามว่า มาเรียนทำไม แต่พอถึงตอนนี้ เพื่อนคนนั้นเดือดร้อนต้องมายืมเงิน ก็เริ่มมองเห็นแล้วว่า มาเรียนที่นี่ นอกจากมีงานทำแล้ว ถ้าอดทนเรียนจนจบ จะได้วุฒิด้วย"

ประสบการตรงจาก ผศ.ดร.รัตนา ประเสริฐสม อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ สะท้อนถึงทัศนคติส่วนหนึ่งในสังคมที่มีต่อการศึกษาในรูปแบบ "เรียนไป ทำงานไป"

ช่วงแรกของการพัฒนาการเรียนการสอนในแนวทางของปัญญาภิวัฒน์ ผศ.ดร.รัตนา บอกว่า เป็นสัดส่วนไม่มากนัก เปรียบเทียบปีการศึกษาแรกของปี 2548 มีพนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สนใจมาเรียนในระดับปริญญาตรี มากถึง 70% แต่ในปีการศึกษาถัดมา พบว่า มีบุคคลาจากภายนอกสนใจเข้าศึกษาที่นี่มากถึง 70%

สัดส่วนนักศึกษาที่เปลี่ยนไปอย่างมากนี้ เป็นกระจกสะท้อนได้ว่า มีคนให้ความสนใจเข้าศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็มีการงานและรายได้

แนวทางการศึกษาที่พัฒนาขึ้นรองรับความต้องการของตลาดนี้ในส่วนหลักสูตรปริญญาตรี มี สาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ และสาขาวิชาการจัดการธุรกิจอาหาร

เนื้อหาของการเรียนรู้ในหลักสูตร สอดคล้องกับงานในหลาย ๆ ส่วน ที่นักศึกษาต้องเรียนรู้

หลักสูตรการจัดการธุรกิจค้าปลีก ชั้นปี 1 นักศึกษาต้องเข้าฝึกงาน เพื่อเรียนรู้การทำงานจริงที่ร้านเซเว่นฯ

สำหรับชั้นปีที่ 2 เป็นการเรียนรู้งานในส่วนของผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ปี 3 ศึกษาและฝึกที่เป็นผู้จัดการร้าน และปี 4 เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับการบริหารงานต่างๆ พร้อมเข้าเข้าฝึกงานที่บริษัทซีพี

ขณะที่สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ ผศ.ดร.รัตนา กำหนดให้นักศึกษาเข้าฝึกงานที่ร้านเซเว่นฯ ในปีแรก เมื่อขึ้นปี 2 และ 3 จึงจะไปประจำตามหน่วยกระจายสินค้า โดยเข้าฝึกงานที่สำนักงานในปีสุดท้ายของการเรียน

ส่วนสาขาการจัดการธุรกิจอาหาร นักศึกษาต้องเข้าฝึกงานที่ร้าน เพื่อเรียนรู้ระบบงานต่างๆ จากนั้นในปี 2 และ 3 จึงเข้าศึกษาที่ CP Ram ปิดท้ายกับการทำงานในส่วนสำนักงาน

"เด็กๆ จะเข้าใจระบบการทำงาน เพราะเรียนรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติจากผู้มีประสบการณ์จริง"

โดยลักษณะการฝึกงาน จัดสรรออกเป็นเรียนรู้ทฤษฎี 10 สัปดาห์ และปฏิบัติงานจริง 10 สัปดาห์ต่อเทอม

ทางเลือกของการศึกษาวันนี้ ผศ.ดร.รัตน บอกว่า มีด้วยกันสองกลุ่ม

กลุ่มแรก เมื่อเรียนจบแล้วค่อยหางานทำ ส่วนอีกกลุ่ม ทำงานก่อนแล้วกลับมาเรียน ซึ่งในฐานะสถาบันการศึกษาก็ได้จัดคลาสให้ตรงตามความต้องการของผู้เรียน

"ตอนนี้เด็กๆ รู้แล้วว่าเรียนจบ ไม่ต้องเป็นพนักงานที่ร้านเสมอไป แต่สามารถทำงานบริหารในองค์กร หรือเจ้าของธุรกิจส่วนตัวได้"

กระบวนการเรียนรู้ด้านค้าปลีกที่จุดเริ่มต้นเพื่อบ่มเพาะ "คนค้าปลีก" เข้าสู่ร้านสะดวกซื้อในเครือข่ายธุรกิจเซเว่นอีเลฟเว่น แต่ด้วยองค์ความรู้ที่อยู่ในหลักสูตร ทำให้ผู้เรียนพัฒนาตัวเองขึ้นเป็น "เถ้าแก่" ได้

"นอกจากทำงานกับซีพีและเซเว่นอีเลฟเว่นแล้ว เด็กๆ ยังสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งถือเป็นอาชีพอิสระ เปิดร้านไว้ แล้วมีรายได้เข้ามา ส่วนตัวเองจะไปเรียนต่อปริญญาโทหรือทำงานอื่นไปด้วยก็ได้ เราดีใจที่ตอนนี้นักศึกษาปี 2 เริ่มถามบ้างแล้วว่าจะลงทุนแฟรนไชส์ ต้องใช้เงินเท่าไหร่"

นิสิตที่จบจากปัญญาภิวัฒน์ จะมีความรู้ความเข้าใจในระบบการทำงานของเครือซีพี โดยเฉพาะร้านเซเล่นอีเลฟเว่น ระบบโลจิสติกส์ และการบริหารธุรกิจอาหาร ซึ่งในอนาคตนิสิตเหล่านี้อาจเข้าเป็นแฟรนไชส์ซีของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ในอนาคต

การออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนของปัญญาภิวัฒน์ เป็นการประมวลองค์ความรู้ในเครือซีพี ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านอาหาร ความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดถูกนำมาจัดหมวดหมู่และถ่ายทอดให้กับนักศึกษา ซึ่งกลายเป็น "ทางลัด" ที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจในระบบการบริหารจัดการธุรกิจอาหารได้ง่ายและรวดเร็ว

มูลค่าเพิ่มที่ตามมา อาจเป็น "ทางลัด" ของเครือซีพีด้วย ในการขยายสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นผ่านระบบแฟรนไชส์กับเครือข่ายของผู้เรียน

ดังนั้นการเรียนในระดับปริญญาตรี นอกจากวิชาพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วยวิชาธุรกิจทั่วไปแล้ว หลังจากนั้นเปิดสอนเนื้อหาที่ลึกขึ้นในวิชาเอก และวิชาโทด้านภาษา เปิดสอนแล้วสำหรับภาษาจีน และสำหรับภาษาญี่ปุ่น ที่เตรียมเปิดสอนในปีการศึกษา 2552

"แนวโน้มมีความเป็นไปได้ที่จะส่งพนักงานไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความต้องการพนักงานในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจำนวนมาก ขนาดจ้างเป็นรายชั่วโมง ในระดับค่าจ้างที่ค่อนข้างแพง จากค่าครองชีพสูง รวมถึงภาษาจีน เพราะเครือซีพีได้รุกไปทำตลาดในจีน ซึ่งเราสามารถพัฒนาบุคลากรที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งกับตัวนักศึกษาและซีพี"

สถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ได้จัดการการเรียนการสอน Work Base Learning คือ เรียนควบคู่กับการทำงาน ตามปรัชญาเยอรมันที่ว่า "การทำงาน ทำให้คนเรียนรู้ได้ดีที่สุด" เน้นวิธีการสอนโดยการยกตัวอย่างกรณีศึกษา เพื่อให้นักศึกษาได้เห็นภาพที่ชัดเจน และสอนให้คิดเป็น ไม่ใช่ท่องตำรา เพื่อนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับองค์กร

"เด็กที่จบจากที่นี่ต้อง เรียนเป็น คิดเป็น ทำงานเป็น ยอมรับวัฒนธรรมที่หลากหลาย และรักความยุติธรรม เมื่อจบแล้วจะทำงานที่ซีพีหรือไปทำที่อื่นก็ได้ หากมีความสุขในการทำงาน"

...จากภารกิจ "เพาะ" เด็กคุณภาพ เข้าเน็ตเวิร์ค ร้านสะดวกซื้อ

วันนี้โอกาสเปิดกว้างถึงการสร้าง "เถ้าแก่มือใหม่" ธุรกิจแฟรนไชส์.. มูลค่าเพิ่มที่เกิดจากฐานความรู้ ปัญญาภิวัฒน์ และซีพี

Source: http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/hr/20090317/25203/ปัญญาภิวัฒน์-ผลิตผล-ตัวจริง-ธุรกิจสะดวกซื้อ.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น